ระบบคอมพิวเตอร์วิเคราะห์ข้อมูล สารสนเทศภูมิศาสตร์และรีโมทเซนซิ่งทางอุตุนิยมวิทยา
โดย กลุ่มงานวิชาการอุตุนิยมวิทยาเกษตร/สำนักแผนที่ภูมิสารสนเทศอุตุนิยมวิทยา บทนำ กรมอุตุนิยมวิทยา มีหน้าที่รับผิดชอบในการพยากรณ์อากาศทั่วไป พยากรณ์อากาศเกษตร และพยากรณ์อุตุนิยมวิทยาอุทก ฯลฯ ซึ่งในพยากรณ์ดังกล่าวได้ใช้ข้อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์และ รีโมทเซนซิ่ง อาทิ เช่น ข้อมูลดาวเทียม ข้อมูลเรดาร์ มาประกอบการวิเคราะห์เป็นเวลานานแล้ว ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งการวิเคราะห์ดังกล่าวจะเป็นลักษณะการแปลภาพด้วยสายตา (Visual/Manual Interpretation) ซึ่งความถูกต้องจะขึ้นอยู่กับประสบการณ์และขีดความสามารถของผู้แปลภาพเท่านั้น สำหรับในปัจจุบันนี้ เนื่องจากเทคโนโลยีทางด้านระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์และ รีโมทเซนซิ่งได้มีการพัฒนาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว และถูกนำมาประยุกต์ใช้ในกิจกรรมด้านต่างๆ มากมาย อาทิ เช่น ธรณีวิทยา การวางแผนการใช้ที่ดิน การเกษตร สิ่งแวดล้อม ป่าไม้ ฯลฯ ซึ่งกิจกรรมทั้งหมด ดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับงานด้านอุตุนิยมวิทยาทั้งทางตรงและทางอ้อม จากสาเหตุดังกล่าวทำให้องค์การ อุตุนิยมวิทยาโลกสนับสนุนให้ประเทศสมาชิกนำเทคโนโลยีด้านระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์และ รีโมทเซนซิ่งมาประยุกต์ใช้กับอุตุนิยมวิทยาให้มากที่สุดเพื่อจะให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์มีความถูกต้องแม่นยำสูง ประหยัดค่าใช้จ่าย และสะดวกต่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศ
|
เหตุผลและความจำเป็น
|
ระบบวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์ |
- แผนที่ฐาน (Base map) ชนิดต่างๆ เช่น แผนที่ลม |
- แผนที่ที่ได้จากระบบนี้ จะเป็นแผนที่เชิงตัวเลข |
ชั้นบน แผนที่ความกดอากาศผิวพื้น และแผนที่ |
(Digital map) ในเสกลต่างๆ ตามต้องการ สามารถ |
ประเทศไทย ฯลฯ ที่ใช้ในการพยากรณ์อากาศเป็น |
เลือกเฉพาะบริเวณพื้นที่ที่จะศึกษา หรือองค์ประกอบ |
ชนิดเสกลเล็ก (Small scale) อัตราส่วน 1:4,000,000; |
ที่ปรากฏบนพื้นที่นั้นๆ ได้ง่าย รายละเอียดสภาพ |
หรือ 1:1,000,000 ฯลฯ รายละเอียดเกี่ยวกับสภาพ |
พื้นดินมีมากตามความต้องการและสามารถผลิตออก |
พื้นดินมีน้อยมาก ทำให้ข้อมูลสภาพพื้นดินที่จะใช้ |
เป็นแผนที่ตามความต้องการได้ในระยะเวลาอันสั้น |
สนับสนุนในการพยากรณ์อากาศมีน้อย การขยาย |
|
เสกลพยากรณ์อากาศให้ลงไปถึงระดับจังหวัด |
|
อำเภอ ฯลฯ ทำได้ยาก |
|
- แผนที่ฐาน (Base map) ทุกชนิดที่ใช้ในการ |
- แผนที่เชิงตัวเลข (Digital map) จากระบบดังกล่าว |
พยากรณ์อากาศจะใช้ได้เฉพาะกิจการ |
สามารถนำไปเปลี่ยนแปลงรูปแบบได้ง่าย เพื่อนำไป |
|
ใช้ในกิจการสาขาต่างๆ ได้เป็นอย่างดีตามจุด |
|
ประสงค์ของผู้ใช้ |
- แผนที่ฐานชนิดต่างๆ ที่ใช้ในการพยากรณ์อากาศ |
- สามารถจัดเก็บแผนที่ทั้งหมดในสื่อของ |
จะเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกๆ ปี ทำให้เกิดปัญหาใน |
คอมพิวเตอร์ เช่น แผ่น Diskette เทปแม่เหล็ก ฯลฯ |
การหาสถานที่เก็บรักษาและดูแล ซึ่งต้องการเนื้อที่ |
|
กว้างพอสมควร |
|
เหตุผลและความจำเป็น
|
ระบบวิเคราะห์ข้อมูลรีโมทเซนซิ่งทางอุตุนิยมวิทยา |
- สถานีรับภาพดาวเทียมของกรมอุตุนิยมวิทยาได้ |
- ระบบดังกล่าวจะเป็นระบบการวิเคราะห์ข้อมูลอย่าง |
เปิดดำเนินการมาเป็นเวลานานแล้ว ภาพดาวเทียมอุตุ
|
อัตโนมัติด้วยคอมพิวเตอร์ (Digital Image |
นิยมวิทยาที่รับเป็นของดาวเทียม GMS (ญี่ปุ่น) และ |
Processing) การวิเคราะห์ข้อมูลสามารถทำได้ |
NOAA (สหรัฐอเมริกา) นำมาใช้ในการพยากรณ์ |
ละเอียดทุกขั้นตอน ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นรูปแบบ |
อากาศทุกวัน ซึ่งในการวิเคราะห์ระบบดาวเทียม |
เดียวกันมีความถูกต้องแม่นยำสูง |
ดังกล่าวใช้วิธีวิเคราะห์ ด้วยสายตา |
|
(Visual Interpretation) |
|
- ความถูกต้องของการแปลภาพจะขึ้นอยู่กับ |
- ข้อมูลดาวเทียม GMS, NOAA สามารถนำไป |
ประสบการณ์และความชำนาญของผู้วิเคราะห์หาก
|
ประยุกต์ใช้ในกิจการสาขาอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี อาทิ |
บุคลากรเหล่านี้เกษียณราชการหรือลาออกไป จะทำ |
เช่น ด้านสิ่งแวดล้อม การเกษตร การวางแผนการ |
ให้เกิดปัญหายุ่งยากในการปฏิบัติงาน |
ใช้ที่ดิน โดยสามารถนำไปประยุกต์ใช้ร่วมกับข้อมูล |
- ภาพดาวเทียม GMS, NOAA ของกรมอุตุนิยมวิทยา |
สำรวจทรัพยากรธรรมชาติชนิดรายละเอียดสูงของ |
ถูกนำมาใช้ในการพยากรณ์อากาศเพียงอย่างเดียว |
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ เช่น SPOT, |
เท่านั้น |
LANDSAT, ERS-1 ฯลฯ ได้เป็นอย่างดีและเกิด |
|
ประโยชน์สูงสุด |
|
|
จะเห็นได้ว่า ความต้องการและความจำเป็นที่จะใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์และรีโมทเซนซิ่งทางอุตุนิยมวิทยา ของกรมอุตุนิยมวิทยามีสูงมาก กอร์ปกับเพื่อเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 (พ.ศ.2540-2544) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ นโยบายและแผนพัฒนาระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 ซึ่งสนับสนุนให้หน่วยงานของรัฐที่มีการใช้ข้อมูลแผนที่ทางภูมิศาสตร์(กรมอุตุนิยมวิทยาเป็นหน่วยงานที่มีการใช้ข้อมูลสารสนเทศทางภูมิศาสตร์มาก และเข้าร่วมเป็นคณะอนุกรรมการ กำหนดนโยบายและแผนพัฒนาระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์นี้ด้วย) จัดตั้งระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ขึ้นในหน่วยงานของตนเพื่อเป็นการเปลี่ยนข้อมูลแผนที่ชนิดเดียวกันหรือที่เกี่ยวข้องกันในระหว่างหน่วยงานของรัฐและ เอกชนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการนำไปใช้พัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ในระยะต่อไป
- ด้านสังคม
- เป็นการพัฒนาบุคลากรของกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งมีความรู้ความชำนาญเฉพาะด้านอุตุนิยมวิทยาเป็นอย่างดี ให้สามารถนำความรู้ความชำนาญดังกล่าวมาประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยี และวิทยาการที่เกิดขึ้นใหม่ด้านระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์และรีโมทเซนซิ่ง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการนำผลมาวิเคราะห์นั้นไปใช้
- ด้านเทคโนโลยี
- นำมาใช้ในการจัดเก็บข้อมูลอุตุนิยมวิทยาที่อยู่ในรูปแบบของแผนที่ฐานชนิดต่างๆ และภาพดาวเทียมอุตุนิยมวิทยาให้อยู่ในรูปแบบใหม่ที่เหมาะสม ง่ายต่อการเก็บรักษาดูแล
- นำมาใช้ในการพัฒนา ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง แก้ไข ข้อมูลอุตุนิยมวิทยาชนิดแผนที่ฐานและภาพดาวเทียมอุตุนิยมวิทยาให้อยู่ในรูปแบบที่สะดวกต่อการนำไปประยุกต์ใช้ในกิจการสาขาต่างๆ เช่น สิ่งแวดล้อม การใช้ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ ฯลฯ
- ด้านทรัพยากรธรรมชาติ
- สนับสนุนการพยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรให้มีความถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น สามารถระบุ
- สนับสนุนการพยากรณ์อุตุนิยมวิทยาทะเล :- ความสูงคลื่น, ช่วงคลื่น ความเร็ว และทิศทางลมในทะเล
- สนับสนุนการพยากรณ์อากาศทั่วไป ให้ได้รับประโยชน์สูงสุดในทุกด้าน การใช้พื้นที่ การชลประทาน ป่าไม้ อุตสาหกรรมต่าง ฯลฯ
- สนับสนุนสภาวะเศรษฐกิจของประเทศในด้านการคาดคะเนผลผลิตสูงสุดของพืชหลักในระดับจังหวัด ระดับภาค
- สนับสนุนการพยากรณ์การเกิดน้ำท่วมฉับพลันให้มีความถูกต้องสูงและสามารถคาดหมายระยะเวลาล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ ทำให้ออกคำเตือนภัยได้ทันท่วงที
- สนับสนุนการศึกษาของภูมิฟิสิกส์ เกี่ยวกับแนวการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกที่มี อิทธิพลกับประเทศไทย ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหว
- สนับสนุนการค้นคว้า วิจัย ที่เกี่ยวกับอุตุนิยมวิทยาสาขาต่างๆ ด้วยการร่วมมือกับหน่วยงานของภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไป ฯลฯ
ความคาดหวังที่ต้องการได้รับ หรือสภาพการณ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้น
เมื่อได้มีการดำเนินงานเสร็จสิ้นตามระยะเวลาที่กำหนดไว้
- ความถูกต้องแม่นยำสูงในการพยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร โดยสามารถระบุชนิดของพืชที่ปลูกบริเวณหรือขอบเขตของพื้นที่ปลูกในระดับจังหวัดหรือภาค ตลอดจนสามารถระบุขอบเขตพื้นที่ที่มีโรคและแมลงศัตรูพืชระบาด ทำให้ออกคำเตือนภัยป้องกันความเสียหายได้ทันท่วงที
- ความถูกต้องแม่นยำสูงในการพยากรณ์อากาศทั่วไป สามารถนำการใช้สภาพพื้นดินในบริเวณต่างๆ ในปัจจุบันมาประยุกต์ใช้กับการพยากรณ์อากาศ ทำให้กำหนดระยะเวลาได้อย่างถูกต้อง สำหรับผลกระทบของลมฟ้าอากาศที่จะมีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันอันจะเป็นการลดความเสียหายได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง
- สามารถคาดคะเนผลผลิตสูงสุดของพืชหลักที่ทำการเพาะปลูกในบริเวณกว้างๆ ในระดับจังหวัด ภาค ซึ่งโดยปกติจะไม่สามารถดำเนินการโดยใช้แรงงานอมนุษย์ให้เสร็จในเวลานั้นๆ ได้ แต่วิธีการนี้จะทำได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ เป็นการลดค่าใช้จ่ายอย่างมหาศาลในการลงทุนดำเนินงานหรือค่าจ้างแรงงาน
- สามารถคาดระยะเวลาของการเกิดน้ำท่วม นำท่วมฉับพลันได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และออก
- สามารถศึกษาแนวการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกที่มีอิทธิพลกับประเทศไทย ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดแผ่นดินไหว ข้อมูลสถิตินี้จะเป็นประโยชน์ต่อการคาดคะเน และการพยากรณ์การเกิดแผ่นดินไหวในอนาคต
- นอกจากนี้ยังสามารถร่วมมือในงานวิเคราะห์ วิจัยด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวกับข้อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์และรีโมทเซนซิ่งกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนได้ด้วย เช่น ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ประมง ฯลฯ
ผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เมื่อสิ้นสุดโครงการ
(1) ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ
ประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบการ นักลงทุน สามารถนำผลผลิตที่ได้จากโครงการฯ นี้ของกรม อุตุนิยมวิทยาไปประกอบการตัดสินใจในการดำเนินกิจการของตนเอง สำหรับภาครัฐ ก็สามารถนำไปใช้ วางแผนการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนการวางแผนและเตรียมการป้องกันเพื่อลด บรรเทาภัยพิบัติทางธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
(2) ประโยชน์ที่หน่วยงานจะได้รับ
บุคลากรมีการพัฒนาและเกิดกระบวนการเรียนรู้ในเทคโนโลยีใหม่ สามารถนำมาใช้ประยุกต์ในการปฏิบัติงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้
เป็นการพัฒนาขบวนการทำงานของหน่วยงาน เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ให้เกิดกับองค์กร
เป็นการเสริมสร้างความร่วมมือในด้านการทำงานและวิชาการ ระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับเอกชน และในระหว่างหน่วยงานภาครัฐด้วยกัน
(3) ประเภทของทรัพยากรที่ได้รับ
ข้อมูล
ระบบงาน
บุคลากร
วัสดุ อุปกรณ์
ผลลัพธ์และผลสัมฤทธิ์ที่ได้
- แผนที่เชิงตัวเลข (Digital map) ชนิดต่างๆ เช่น แผนที่แสดงเครือข่ายที่ตั้งสถานีอุตุนิยมวิทยาของประเทศไทย แผนที่ตัวแปรอุตุนิยมวิทยาในคาบเวลาต่างๆ มาตราส่วน ๑:๒๕๐,๐๐๐., ๑:๕๐,๐๐๐ได้แก่ ปริมาณฝน อุณหภูมิอากาศ ความชื้นสัมพัทธ์ ฯลฯ แผนที่การวิเคราะห์สภาวะฝนในพื้นที่เสี่ยงภัยเพื่อการวางระบบป้องกันและเตือนภัยทางอุตุนิยมวิทยา ฯลฯ
- ภาพถ่ายจากดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา NOAA 14, 15, 16, 17, ชนิด Level 1 B รายวัน ประเภทสี ขาว-ดำ และผสมสี เพื่อใช้ในการจำแนกชนิดและความรุนแรงของเมฆ การศึกษาแนวทางการเคลื่อนตัวของพายุที่จะมีกระทบต่อสภาพลมฟ้าอากาศของประเทศไทย ตลอดจนการวิเคราะห์ภาพถ่ายเพื่อการวางแผนทางด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ของมนุษย์ใน ระดับภูมิภาค